วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน วันนี้ขอนำสาระดีๆ มีประโยชน์ที่ใกล้ตัวที่เราก็รู้อยู่แล้ว แต่เราไม่ค่อยทำกันมาเล่าสู่กันฟัง นั่นคือประโยชน์ของการออกกำลังกาย สาเหตุที่ไม่ค่อยได้ทำกันก็เกิดจากข้ออ้างต่างๆนานา บ้างก็บอกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา แม้แต่เวลานอนยังไม่ค่อยจะมี บ้างก็บอกตรงๆเลยว่าไม่ชอบ ขี้เกียจ เหนื่อยบ้าง ไม่มีเพื่อนบ้าง พอครั้นมีเพื่อนตัวเองก็ติดดันธุระซะงั้น เฮ้อ ชีวิต ไม่ใช่แต่เพื่อนๆหรอกที่อ้างกัน ตัวผมเองก็เป็นเหมือนกัน หาข้ออ้างให้ตัวเองตลอด ส่วนใหญ่ก็มาจากความขี้เกียจนี่แหล่ะ เรื่องเวลาจริงๆนะมี ฮ่าๆ ขอขำตัวเองหน่อย แต่เวลามันก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก เวลานอกจากจะผ่านไปเฉยๆแล้ว ยังนำพาสุขภาพ ร่างกายของผมไปด้วย ทั้งอ้วน ทั้งแก่ เฮ้อ สาเหตุก็มาจากการไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนี่เอง ผมเลยต้องหาเวลาออกกำลังซะบ้าง แต่ผมไม่บอกหรอกนะว่าผมเล่นกีฬาไร ออกกำลังด้วยวิธีไหน แต่จากการที่ได้ออกกำลังแล้วรู้สึกว่าตัวเองดูชีวิตชีวาขึ้น หุ่นดีขึ้น หน้าตาที่เคยห่อเหี่ยวก็ดูดีขึ้นอย่างชัดเจน จากที่ผมได้รับก็เลยอยากให้เพื่อนๆได้เห็นประโยชน์ของการออกำลังกาย และให้เวลากับมัน อย่างที่ผมได้ทำมา แต่ผมไม่สามารถอธิบายประโยชน์ของการออกกำลังกายได้ครบ เพราะว่าผมไม่ใช่ผู้รู้อะไรมากมาย จึงขออนุญาตรวบรวมบทความจากทางเว็บไซต์ต่างๆมานำเสนอให้เพื่อนๆได้อ่านกัน

การออกกำลังกายให้ผลดีต่อร่างกายหลายประการ ทำให้อารมณ์ดี ร่างกายแข็งแรง หลับสบายขึ้นผลดีที่ได้รับดังนี้

-ปอดแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกายทำให้ปอดสามารถรับ oxygen และขับ carbodioxide ออกจากปอด
-การออกกำลังกายจะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
-การออกกำลังกายจะลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
-ลดระดับไขมัน Cholesterol
-ลดความดันโลหิต
-การออกกำลังกายจะป้องกันโรคเบาหวาน และ การควบคุมเบาหวานดีขึ้น การออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อใช้น้ำตาลในกระแสเลือด ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำลง
-การออกกำลังกายทำให้น้ำหนักลดลง
-การออกกำลังกายทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ลดภาวะกระดูกพรุน
-การออกกำลังกายจะป้องกันมะเร็งได้ เช่นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นของเสียถูกขับออก
-การออกกำลังจะลดน้ำหนักทำให้ไขมันในร่างกายลดลงฮอร์โมน estrogen ลดลง มะเร็งก็ลดลง
-การออกกำลังกายทำให้อารมณ์ดีขึ้นเนื่องจากการหลังของ endorphin และ serotonin ในสมอง
-ลดภาวะหลอดเลือดแดงและหลอดดำแข็ง เนื่องจากการออกกำลังกายจะลดไขมัน LDL Cholesterol [low density lipoprotein cholesterol ] ซึ่ง LDL จะจับผนังเส้นเลือดทำให้หลอดเลือดแข็ง นอกจากลด LDL แล้วการออกกำลังกายยังละลาย plaque ที่เกาะบนผนังหลอดเลือดออกทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
-หัวใจแข็งแรงขึ้น การออกกำลังกายทำให้หัวใจแข็งแรงขึ้นหัวใจบีบตัวแต่ละครั้งได้เลือดมากขึ้นทำให้เต้นช้าลง นักมวยก่อนขึ้นชกถ้าฟิตมากๆหัวใจจะเต้นช้า

การออกกำลังนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอย่างที่ว่าแล้ว ยังส่งผลดีต่อบุคลิกภาพภายนอกอีกด้วย ดังนี้

- ผิวจะดูดีขึ้น การออกกำลังมีผลในแง่บวกหลายอย่างต่อผิว ช่วยเติมสีสันให้พวงแก้ม ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นจากการไหลเวียนของโลหิตที่ดีขึ้น และยังทำให้ผิวกระชับขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันความหย่อนยานหรือริ้วรอยได้ด้วย

- ขนาดร่างกายจะสมส่วน การออกกำลังเป็นประจำจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีส่วนเกิน และลดน้ำหนักได้ จะค่อย ๆ มีขนาดร่างกายที่เหมาะสมกับส่วนสูง และโครงสร้างร่างกาย จะทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น และก็จะดูดีขึ้นตามไปด้วย

- เส้นผมจะแข็งแรงกว่าเดิม การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้มีการสูบฉีดโลหิตไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งหนังศีรษะด้วย รากผมจะได้รับอาหารจากเลือดที่เต็มไปด้วยออกซิเจน และช่วยกำจัดอนุมูลอิสระก่อนที่จะทำลายเส้นผม

- ดวงตาจะแจ่มใสขึ้น เป็นผลของการไหลเวียนโลหิตที่ดี จะทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้น และแจ่มใส นอกจากนี้ การใช้สายตาจับจ้องไปข้างหน้าตลอดเวลาของการออกกำลัง ทำให้ได้มีการออกกำลังกล้ามเนื้อดวงตา ที่ทำให้แข็งแรงขึ้น

- กล้ามเนื้อจะดูดีขึ้น การออกกำลังแต่ละอย่างจะทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ทำให้ดูเพรียวขึ้น เสื้อผ้าจะเข้ากับรูปร่างได้อย่างสวยงาม และก็จะดูฟิตมากขึ้น

เห็นไหมครับว่าการออกกำลังมีประโยชน์มากมายเหลือเกิน ถือเป็นยาวิเศษ อย่างที่เราเคยได้ยินกัน ฉะนั้นเราจะชักช้าอยู่ใย เราควรสละเวลามาสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยการเล่นกีฬา ออกกำลังกายกันดีกว่า ก่อนที่โรคร้ายต่างๆจะถามหา เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่บอกนะครับ

ขอขอบคุณ ที่มา:
http://www.siamhealth.net
http://variety.mwake.com

ประโยชน์ของการเลิกสูบบุหรี่

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกๆท่าน ที่ผ่านมาทางบล็อกนี้ ขอประเดิมเรื่องแรกของบล็อกด้วย เรื่องประโยชน์ของการเลิกสูบบุหรี่
ซึ่งปัจจุบันเป็นปัญหาของสังคมไปแล้ว รัฐบาลก็ได้รณรงค์ให้เลิกสูบกัน ทั้งที่ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย ทั้งผู้เสพเอง ผู้ผลิต ร้านค้าผู้จำหน่าย ต้องตระหนักถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้น แต่ในที่นี่ผมไม่ขอที่จะพูดถึงการวิธีการเลิกสูบบุหรี่ รวมถึงการรณรงค์ด้วย แต่จะขอนำเรื่องราวของประโยชน์จากการเลิกสูบบุหรี่มานำเสนอ โดยผมขอยกบทความจากเว็บไซต์ที่หนึ่ง ซึ่งเขียนได้ดี ครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งที่มาผมขอระบุไว้ท้ายบทความ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนี้

ประโยชน์ของการเลิกสูบบุหรี่

1. การหยุดสูบบุหรี่เป็นผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และเป็นผลดีที่เกิด
ขึ้นได้ทันที ที่เลิกสูบทั้งในเพศ
หญิงและชาย ในทุกกลุ่มอายุไม่ว่าจะป่วยด้วยโรค
จากการสูบบุหรี่แล้วหรือไม่ก็ตาม
2. ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ต่อไป โดยผู้
ที่เลิกสูบบุหรี่ก่อนอายุ 50 ปีจะมีโอกาสเสียชีวิตเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ที่ยังคงสูบต่อไป
เมื่อทั้งสองกลุ่มมีอายุ 65 ปี
3. การเลิกสูบบุหรี่ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอด มะเร็งในระบบอื่นๆ
หัวใจวายกระทันหัน เส้นเลือดในสมองตีบตันกะทันหัน โรคถุงลมโป่งพอง และ
โรคปอดเรื้อรังอื่นๆ
4. ผู้หญิงที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนการตั้งครรภ์หรือระหว่าง 3 - 4 เดือนแรกของการ
ตั้งครรภ์ จะลดความเสี่ยงที่ลูกจะมีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ
5. ผลดีที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพจากการหยุดสูบบุหรี่มีมาก น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 2.3 กิโลกรัม
6. ในการหยุดสูบบุหรี่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป ความเสี่ยงของการ
ที่จะเสียชีวิตจะลดลงอย่างรวดเร็ว

การหยุดสูบบุหรี่กับการเกิดมะเร็งทางเดินระบบหายใจ
1. การหยุดสูบบุหรี่จะลดอัตราเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคง
สูบบุหรี่ต่อไป โดยพบว่าหลังจากการหยุดสูบ10 ปี ความเสี่ยงของการเกิด
มะเร็งปอดจะเท่ากับร้อยละ 30-50 ของผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไปและอัตราเสี่ยง
ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากหยุดสูบบุหรี่เกิน 10 ปี
2. การลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดในผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ พบทั้งในเพศชาย
และหญิงทั้งผู้ที่สูบบุหรี่ชนิดก้นกรองและชนิดที่ไม่มีก้นกรอง
3. การหยุดสูบบุหรี่ อัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำคอและกล่องเสียงเมื่อ
เทียบกับผู้ที่ยังสูบบุหรี่ต่อไป
4. การหยุดสูบบุหรี่ลดความผิดปกติที่จะกลายไปเป็นมะเร็งในระยะแรกของ
เยื่อบุลำคอ กล่องเสียง และปอด

การหยุดสูบบุหรี่กับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
1. หลังจากหยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา 5 ปี อัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในช่องปาก
และหลอดอาหารส่วนต้น จะลดลงครึ่งหนึ่ง เทียบกับคนที่ยังสูบบุหรี่ต่อไป และ
อัตราเสี่ยงยังคงลดลงต่อเนื่องหลังจากหยุดสูบบุหรี่เกิน 5 ปี
2. การหยุดสูบบุหรี่ ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับอ่อน เมื่อเทียบกับผู้ที่
ยังคงสูบต่อไป แต่การลดลงของความเสี่ยงนี่จะพบหลังจากหยุดสูบบุหรี่เกิน
10 ปีขึ้นไป
3. อัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกลดลงอย่างมากในหญิงที่เลิกสูบ
บุหรี่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไปแม้ว่าจะหยุดสูบไปเพียง 2-3 ปี ข้อมูล
นี้เป็นการสนับสนุนว่าการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งปากมดลูก

การหยุดสูบบุหรี่กับมะเร็งนอกระบบทางเดินหายใจ
1.การหยุดสูบบุหรี่ ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันทั้งใน
เพศชายและเพศหญิง ในทุกกลุ่มอายุ เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป
2. อัตราเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันลดลงครึ่งหนึ่ง หลังจากหยุด
สูบบุหรี่ครบ 1 ปี และจะลดลงอย่างช้าๆต่อไป หลังจากหยุดสูบบุหรี่เป็นเวลา
15 ปี ความเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตันจะเท่ากับผู้ที่ไม่เคยสูบ
บุหรี่
3. ในผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน การหยุดสูบบุหรี่จะ
ลดโอกาสของกล้ามเนื้อหัวใจตาย และโอกาสเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน ลง
เป็นอย่างมาก รายงานการวิจัยพบว่าโอกาสจะเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควรลดลง
ถึงร้อยละ 50
4. การหยุดสูบบุหรี่ ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดตีบตันของส่วนอื่นๆ ของ
ร่างกาย เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป
5. ในผู้ที่เป็นโรคเส้นเลือดตีบตันที่ขา การหยุดสูบบุหรี่ช่วยทำให้เดินได้นานขึ้น
ลดโอกาสที่จะถูกตัดขา หลังจากการผ่าตัดเส้นเลือด และอัตราการรอดชีวิตสูง
ขึ้น
6. หลังการหยุดสูบบุหรี่ลดโอกาสของการเป็นลมปัจจุบันเนื่องจากเส้นเลือด
สมองตีบและแตก ความเสี่ยงนี้จะลดลงเท่ากับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ภายในเวลา
5 ปี แต่ในบางรายต้องหยุดสูบบุหรี่ภายในเวลา 15 ปี ความเสี่ยงจะลดลงเท่า
กับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่

การหยุดสูบบุหรี่และโรคปอดชนิดอื่นๆ
1. การหยุดสูบบุหรี่จะช่วยลดอาการไอ ลดจำนวนเสมหะ ลดการหายใจมีเสียง
วี๊ด และลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เช่นหลอดลมอักเสบ และ
ปอดบวม เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป
2. ในผู้ทียังไม่เกิดอาการของดรคถุงลมโป่งพอง การหยุดสูบบุหรี่จะทำให้
สมรรถภาพของปอดดีขึ้นร้อยละ 5 ภายใน 2-3 เดือนหลังจากเลิกสูบบุหรี่
3. ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่อย่างถาวร อัตราการเสื่อมของปอดจะชลอตัวลง จนเท่ากับ
ความเสื่อมที่เกิดในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่
4. ในผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ได้อย่างถาวร อัตราการเสียชีวิตจากโรคถุงลมโป่งพอง
จะลดลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป

การหยุดสูบบุหรี่และการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว
1. น้ำหนักตัวเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นในผู้ที่หยุดสูบบุหรี่เท่ากับ 2.3 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนัก
ที่เพิ่มขึ้นขนาดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่ประการใด
2. ร้อยละ 80 ของผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่มีเพียงร้อยละ 3.5
เท่านั้นที่หยุดสูบบุหรี่แล้วมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่า 9 กิโลกรัม สาเหตุที่น้ำหนัก
ตัวเพิ่มสูงขึ้น เกิดจากการกินอาหารที่มากขึ้นและการเผาผลาญพลังงานที่น้อย
ลงหลังการหยุดสูบบุหรี่
3. การออกกำลังกายสม่ำเสมอปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค โดยลดอาหาร
ไขมัน อาหารทอด จะช่วยทำให้ควบคุมน้ำหนักได้

การหยุดสูบบุหรี่และการเจริญพันธุ์
1. ผู้หญิงที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนการตั้งครรภ์ จะทำให้กำเนิดบุตรที่มีน้ำหนักตัว
ใกล้เคียงกับบุตรที่เกิดจากแม่ที่ไม่เคยสูบบุหรี่
2. หญิงตั้งครรภ์ที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนอายุครรภื 30 อาทิตย์ จะให้กำเนิดบุตรที่
น้ำหนักตัวมากกว่าหญิงที่สูบบุหรี่ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์
3. การวิจัยพบว่าถึงจะลดจำนวนบุหรี่ที่สูบระหว่างการตั้งครรภ์ บุตรที่คลอดออก
มาก็จะมีน้ำหนักตัวน้อยเหมือนกับผู้ที่ไม่ได้ลดจำนวนบุหรี่ที่สูบ
4. การสูบบุหรี่จะทำให้ประจำเดือนของสตรีหมดเร็วขึ้น 1-2 ปี ในผู้ที่หยุดสูบ
บุหรี่ อายุที่ประจำเดือนหมดจะใกล้เคียงกับผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่

การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ และพฤติกรรมหลังการสูบบุหรี่
1. ในระยะแรกของการหยุดสูบบุหรี่ สูบมักจะมีความกังวล หงุดหงิด อารมณ์
ร้อน โกรธง่าย ไม่มีสมาธิ อยากอาหารเพิ่มมากขึ้น และมีความอยากที่จะสูบ
บุหรี่อยู่ตลอดเวลา อาการเหล่านี้จะหายไปในระยะเวลาอันสั้น แต่ความอยาก
สูบบุหรี่และความรู้สึกว่ารสชาติอาหารดีขึ้น จะยังคงมีอยู่ต่อไปอีกซักระยะหนึ่ง
2. ในระยะแรกของการหยุดสูบบุหรี่ สมรรถภาพของการทำงานง่ายๆหลาย
อย่างที่ใช้สมาธิจะลดลงเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่พบว่ามีความผิดปกติของ
ความจำ และความสามารถในการเรียนรู้และการทำงานที่ใช้ความสามารถ
สูงอื่นๆภายหลังการหยุดสูบบุหรี่
3. เมื่อเทียบระหว่างที่สูบบุหรี่กับผู้ที่หยุดสูบบุหรี่ไปแล้ว พบว่าผู้ที่หยุดสูบบุหรี่
ได้สำเร็จมีความชื่อมั่นในตัวเองสูงกว่า และสามารถควบคุมตัวเองได้ดีกว่า
ผู้ที่ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้
4. ผู้ที่หยุดสูบบุหรี่แล้ว มีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคอื่นๆ
มากกว่าผู้ที่ยังสูบบุหรี่อยู่ต่อไป

ที่มา : http://www.thailabonline.com